top of page

สำรวจตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle, BEV) ในไทย

Updated: Sep 9, 2021

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อเจครับ ปัจจุบันทำงานอยู่บริษัท N-Squared Engineering Co.,Ltd. ในตำแหน่ง Business Development ครับ โดยวัตถุประสงค์ของผมคือต้องการให้คนไทยได้มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ EV มากขึ้น รวมถึงตอบปัญหาข้อสงสัยต่างๆ ให้กับผู้สนใจเกี่ยวกับรถยนต์ EV ครับ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้พาท่านผู้อ่านทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆกันไปแล้ว วันนี้ผมจะขอพาทุกท่านมาสำรวจตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle, BEV) ที่มีวางจำหน่ายในไทย โดยจะเล่าให้เห็นถึงสเปคต่างๆในแต่ละรุ่นรวมถึงราคาขายในปัจจุบันด้วยครับ


รวมรุ่นรถ BEV ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ


1.MG ZS EV

มาเริ่มต้นกันที่คันแรกกันก่อนเลยนะครับกับ MG ZS EV นับว่าเป็นรถ BEV ที่ได้กระแสการตอบรับเป็นอย่างดีหลังจากการเปิดตัวไปเมื่อ กลางปี 2019 ในไทย ด้วยราคาค่าตัวที่ 1.19 ล้านบาท บวกกับระยะทางในการขับขี่สูงถึง 337 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกไปจากนี้ทางรถรุ่นนี้ยังมีระบบกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทยเป็นอย่างมาก

รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 337 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 44.5 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 105 kW

  • แรงม้า: 143 hp

  • แรงบิด: 353 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 8.5 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 140 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 1,190,000 บาท

2.Nissan Leaf

นับเป็นรถ BEV รุ่นแรกๆก็ว่าได้ที่เข้ามาทำตลาดในไทย โดยรุ่นนี้ถือเป็น Generation ที่ 2 แล้วที่เข้ามาเปิดตัวในบ้านเรา โดยราคาเปิดตัวในตอนแรกอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท ปัจจุบันได้ลดราคาลงเหลือ 1.49 ล้านบาท


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 311 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 40 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 110 kW

  • แรงม้า: 150 hp

  • แรงบิด: 320 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 7.9 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 144 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 1,490,000 บาท


3.Fomm one

รถ BEV สัญชาติญี่ปุ่นอีก หนึ่งค่าย โดยราคาค่าตัวที่เปิดมานั้นน่าจะเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดในท้องตลาด BEV ในตอนนี้ นอกไปจากนี้ตัวรถยังมีขนาดกระทัดและยังมีความสามารถในการขับลุยน้ำได้ ตัวรถได้ถูกออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างๆช้าในขณะที่ตัวรถกำลังลอยน้ำอยู่ นับเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้เลยทีเดียว


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 160 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 11.84 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 10 kW

  • แรงม้า: 13.4 hp

  • ความเร็วสูงสุด: 80 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 599,000 บาท

4.Hyundai IONIQ

มาดูในฝั่งรถยนต์สัญชาติเกาหลีกันบ้างครับ กับรถดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัยในรูปแบบของรถ BEV Hatchback 5 ประตู


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 280 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 28 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 98 kW

  • แรงม้า: 120 hp

  • แรงบิด: 295 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 9.9 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 165 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 1,749,000 บาท


5.Hyundai KONA SEL

มาพบกันอีกรุ่นสำหรับ Hyundai KONA ในรถตระกูลประเภท SUV โดยโดดเด่นด้วยระยะทางที่สามารถวิ่งได้สูงถึง 482 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 482 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 64 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 170 kW

  • แรงม้า: 204 hp

  • แรงบิด: 395 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 7.6 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 167 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 2,259,000 บาท


6.Kia Soul EV

อีกรุ่นจากทางฝั่งค่ายเกาหลี Kia Soul EV ด้วยดีไซน์และสีที่สะดุดตาของรถรุ่นนี้ อีกทั้งยังมีราคาที่ใกล้เคียงกันกับ Hyundai KONA รถรุ่นนี้จึงเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 391 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 64 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 90 kW

  • แรงม้า: 109 hp

  • แรงบิด: 395 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 11.2 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 167 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 2,387,000 บาท

7.Audi e-tron

มาลองดูทางค่ายรถยุโรปกันบ้างครับ กับ Audi e-tron ด้วยชื่อเสียงของรถยนต์ค่ายนี้ที่มีความโดดเด่นในการด้านการขับขี่และเทคโนโลยีภายในตัวรถที่ทาง Audi ใส่ออฟชั่นมาให้ค่อนข้างจัดเต็ม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่สูงกว่าค่ายทางฝั่งญี่ปุ่นพอสมควร


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 417 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 95 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 265 kW

  • แรงม้า: 408 hp

  • แรงบิด: 664 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 5.7 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 200 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 5,099,000 บาท

8.BMW i3

จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้คือการดีไซน์ที่ล้ำสมัยของทาง BMW ทั้งภายในและภายนอก โดยบานประตูด้านหลังสามารถเปิดได้กว้างเป็นมุม 90 องศา จึงทำให้มีความสะดวกในการเข้าออกมากยิ่งขึ้น


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 280 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 33.2 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 137 kW

  • แรงม้า: 184 hp

  • แรงบิด: 270 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 6.9 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 160 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 3,730,000 บาท

9.MINI Cooper SE

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจะเป็นที่นิยมของวัยรุ่นด้วยดีไซน์ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นั่นคือ Mini Cooper SE ได้ออกมาทำตลาดรถ BEV เป็นรุ่นแรกในไทย โดยมีวางจำหน่ายจำนวนจำกัดที่ 25 คันเท่านั้นในประเทศไทย

รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 217 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 33.6 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 135 kW

  • แรงม้า: 184 hp

  • แรงบิด: 270 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 7.3 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 150 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 2,290,000 บาท

10. Jaguar I-PACE

มาดูในฝั่งแบรนด์รถหรูกันบ้าง ทาง Jaguar เองก็ได้ลงมาทำตลาดรถ BEV กับค่ายอื่นๆด้วยเหมือนกัน โดยก็ยังสามารถรักษาคุณภาพและเอกลักษณ์ของตัวได้ไม่ต่างจาก รถรุ่นอื่นๆของแบรนด์นี้เลย


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 470 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 90 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 290 kW

  • แรงม้า: 400 hp

  • แรงบิด: 696 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 4.8 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 200 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 5,499,000 บาท


11.Porsche Taycan Turbo S

มาพบกับรถ BEV ที่จัดอยู่ในกลุ่มประเภทรถ Sport กันบ้าง รถรุ่นนี้น่าจะเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะในการขับขี่สูงที่สุด และราคาค่าตัวของรถรุ่นนี้ก็มีราคาสูงที่สุดในบรรดารุ่นรถ BEV ทั้งหมด ที่ผมได้รวบรวมข้อมูลมา ณ ขณะนี้


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 450 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 93.4 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 560 kW

  • แรงม้า: 761 hp

  • แรงบิด: 1050 Nm

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h: 2.8 วินาที

  • ความเร็วสูงสุด: 260 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 11,000,000 บาท


12.BYD M3

สองรถยนต์รุ่นสุดท้ายที่ผมจะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ คือ แบรนด์ BYD จากประเทศจีน

โดยรถรุ่นนี้จัดเป็นรถยนต์ BEV ประเภทรถ Van โดยมาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 300 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 50.3 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 70 kW

  • แรงม้า: 94 hp

  • แรงบิด: 180 Nm

  • ความเร็วสูงสุด: 100 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 1,089,000  บาท


13.MINE SPA1

ปิดท้ายด้วย รถยนต์ BEV สัญชาติไทยกันบ้างครับ ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้เห็นรถยนต์แบรนด์ไทยกันมากนัก แต่ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีครับว่า ผู้ประกอบการในบ้านเราก็มีความสนใจกับรถ BEV อยู่ไม่น้อย


รายละเอียดและสเปค

  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด: 200 กม.

  • ขนาดแบตเตอรี่: 30 kWh

  • ขนาดมอเตอร์: 95 kW

  • แรงม้า: 127 hp

  • แรงบิด: 220 Nm

  • ความเร็วสูงสุด: 140 km/h

ราคาจำหน่ายในไทย: 1,200,000 บาท


สำหรับท่านผู้อ่านที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ก็อาจจะอยากเห็นข้อมูลเปรียบเทียบรถรุ่นต่างๆ กันใช่ไหมครับ ผมได้ทำสรุปข้อมูลออกมาให้เห็นได้ง่ายขึ้นดังนี้ครับ


เปรียบเทียบรถ BEV แต่ละรุ่น ในด้านระยะทางที่วิ่งได้

เปรียบเทียบรถ BEV แต่ละรุ่น ในด้านแรงม้า

เปรียบเทียบรถ BEV แต่ละรุ่น ในด้านราคาจำหน่าย

วิเคราะห์และสรุป

จะเห็นได้ว่าแนวโน้มของรถยนต์ BEV ในประเทศไทยนั้น มีการเติบโตมากขึ้นจากปีก่อนมาก สังเกตได้จากจำนวนรุ่นรถ BEV จากหลากหลายแบรนด์ที่ได้มีการเปิดตัวมากขึ้น ทั้งนี้เทรนด์ของรถยนต์ BEV หรือ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ EV ประเภทอื่นก็ตาม จะเติบโตและเกิดการใช้งานกันอย่างแพร่หลายได้นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของทางภาครัฐด้วย เช่น นโยบาย EV ประชารัฐ นั่นทำให้เห็นว่าทางรัฐบาลเองก็อยากจะผลักดันให้รถ EV นั้นเกิดขึ้นโดยเร็วในประเทศของเรา นอกไปจากนี้ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์ในไทยก็ได้เริ่มลงทุนในรถ EV และได้ผ่านการขอ BOI เพื่อเตรียมผลิตรถ EV ในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ผมในฐานะผู้ที่มีความสนใจรถ EV จึงอยากที่จะนำเสนอข้อมูลที่ประโยชน์และช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถ EV ของท่านผู้อ่านครับ ผมหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับท่านผู้สนใจในรถ EV หรือกำลังตัดสินใจในการเลือกซื้ออยู่นะครับ สำหรับบทความหน้าผมจะมาเล่าอะไรให้ฟังเกี่ยวกับรถ EV นั้น โปรดติดตามกันได้เลยครับ สุดท้ายนี้ถ้าท่านใดชอบบทความนี้ผมฝากท่านแชร์บทความนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมและทีมงานด้วยนะครับ ขอบคุณครับ



แหล่งข้อมูลอ้างอิง



ช่องทางในการติดต่อกับทีมงาน

Line ID:@228tslca



978 views0 comments
bottom of page